ทอม ฮาร์ดี (Tom Hardy) เป็นนักแสดงชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์และทีวี โดยเขาเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1977 ในลอนดอน, อังกฤษ ชื่อเต็มของเขาคือ Edward Thomas Hardy. เขาเริ่มต้นอาชีพการแสดงในวงการแสดงอย่างเจริญกำลังและได้รับความรู้จักจากบทบาทในหนังเรื่อง “Inception” (2010) และ “Warrior” (2011) ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอนในวงการภาพยนตร์โลก.

ทอม ฮาร์ดีมีบทบาทที่โดดเด่นในหนังเรื่อง “The Dark Knight Rises” (2012) ที่เขาเล่นบท “Bane” และ “Mad Max: Fury Road” (2015) ที่เขาเล่นบท “Mad Max” โดยรับความชื่นชมมากจากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วโลกในทั้งสองบทบาทนี้.

นอกจากนี้ เขายังเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีผู้ชมรักในวงการบันเทิงโลกและได้รับรางวัลต่าง ๆ เช่น BAFTA Award, Academy Award (Oscar) nomination, และ Screen Actors Guild Award รวมถึงมีบทบาทในหนังซีรีย์ “Venom” (2018) และ “Venom: Let There Be Carnage” (2021) ในบท “Eddie Brock / Venom” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับความนิยมมากในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน อัพเดทข้อมูลจากช่วงเวลาการทรงความรู้ของฉัน (Knowledge cutoff) ที่สิ้นสุดเมื่อกันยายน ค.ศ. 2021 ทอม ฮาร์ดีอาจมีผลงานเพิ่มเติมหลังจากนั้นที่ไม่ได้ระบุในคำตอบนี้.

อาชีพ

แม้ว่าเขาจะเป็นวัยรุ่นที่วุ่นวาย แต่ Tom Hardy ก็ชนะการแข่งขัน The Big Breakfast ในชื่อ ‘Find Me a Supermodel’ ในปี 1998 ตอนอายุ 21 ปี
รายการทีวีเปิดตัวของเขาคือซีรีส์สงคราม ‘Band of Brothers’ ของ Steven Spielberg ในปี 2544 ไม่กี่เดือนต่อมาเขาก็มีภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือภาพยนตร์ระทึกขวัญสงครามของ Ridley Scott เรื่อง ‘Black Hawk Down’ แม้ว่าการแสดงของเขาจะได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากนักวิจารณ์ แต่เจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มอื่น ๆ ก็วิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องนี้

ภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเขา ‘Star Trek: Nemesis’ ในปี 2545 เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ซึ่งเขารับบทเป็น Praetor Shinzon ผู้นำของนักรบ Reman

ในปี 2003 เขาแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘dot the i’ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวจิตวิทยา และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เดินทางไปโมร็อกโกเพื่อถ่ายทำเรื่อง ‘Simon: An English Legionnaire’ ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับชายหนุ่มชาวอังกฤษในช่วงความขัดแย้งฝรั่งเศส-แอลจีเรีย ในปีเดียวกันนั้น เขาได้สร้างภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง ‘LD 50 Lethal Dose’ ในสหราชอาณาจักร
ในปี 2003 เขาปรากฏตัวเป็น Skank ในละคร ‘In Arabia We’d All Be Kings’ ซึ่งแสดงในลอนดอน นักวิจารณ์วิจารณ์ผลงานของเขาว่า “น่าทึ่ง”; มันยังทำให้เขาได้รับรางวัลอีกด้วย
ในปี 2548 เขาได้แสดงในมินิซีรีส์เรื่อง ‘The Virgin Queen’ ของ BBC ซึ่งเขารับบทเป็นโรเบิร์ต ดัดลีย์ เพื่อนสมัยเด็กของเอลิซาเบธที่ 1 ในปี 2549 เขาได้แสดงใน ‘A for Andromeda’ ของ BBC Four ซึ่งเป็นการรีเมคละครโทรทัศน์ปี 1961 .

ในปี 2550 เขาปรากฏตัวในบทบาทนำใน ‘Stuart: A Life Backwards’ ของ BBC Two ซึ่งเขารับบทเป็น Stuart Shorter ชายจรจัดที่ถูกทารุณกรรมมานานหลายปี
ในปี 2008 เขารับบทผู้ข่มขืนผู้ติดยาในภาพยนตร์ระทึกขวัญอาชญากรรมของอังกฤษเรื่อง ‘WΔZ’ ในปีเดียวกันนั้น เขาได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์ตลกอาชญากรรมสัญชาติอังกฤษ-อเมริกันเรื่อง ‘RocknRolla’ ซึ่งเขารับบทเป็น Handsome Bob สมาชิกเกย์ที่ปิดบังตัวตนของ พวงป่า

ในปี 2009 เขามีน้ำหนัก 19 กิโลกรัมเพื่อรับบทเป็นบรอนสัน/ปีเตอร์สันในภาพยนตร์เรื่อง ‘Bronson’ ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตจริงของนักโทษชาร์ลส บรอนสัน ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2552 เขารับบทเป็นพวกอันธพาลในละครโทรทัศน์เรื่อง ‘The Take’ ทาง Sky One ในเดือนสิงหาคม เขาได้แสดงใน ‘Wuthering Heights’ ทางช่อง ITV ซึ่งเขารับบทเป็น Heathcliff

ในปี 2010 เขารับบทเป็นแซม ผู้ติดแอลกอฮอล์ในละครเรื่อง ‘The Long Red Road’ ซึ่งแสดงที่ Goodman Theatre ในชิคาโก เขาได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากการแสดงของเขา ในปีเดียวกันนั้น เขารับบทเป็นอีมส์ในภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวไซไฟของคริสโตเฟอร์ โนแลนเรื่อง ‘Inception’
ในปี 2554 เขาได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง ‘Tinker Tailor Soldier Spy’ ซึ่งดัดแปลงมาจากมินิซีรีส์ทางโทรทัศน์ปี 1979 ทาง BBC TV ในปีเดียวกันนั้น การแสดงภาพของทอมมี่ ริออร์แดนในภาพยนตร์เรื่อง ‘Warrior’ ทำให้เขาได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์

ในปี 2012 เขาได้แสดงในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง ‘This Means War’ ซึ่งเขารับบทเป็นซุปเปอร์วายร้าย Bane ซึ่งเขามีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 14 กิโลกรัม ในปีเดียวกันนั้น เขาได้แสดงภาพคนเถื่อนใน ‘Lawless’ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ดราม่าอาชญากรรมอเมริกัน

ในปี 2014 ฮาร์ดีรับบทเป็นบ็อบ ซากินอฟสกี้ บาร์เทนเดอร์ใน ‘The Drop’ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ดราม่าอาชญากรรมอเมริกัน กำกับโดยมิคาเอล อาร์ ในปีนั้น เขายังปรากฏตัวในซีรีส์ทาง BBC เรื่อง ‘Peaky Blinders’ ในซีรีส์ที่สอง โดยรับบทเป็น Alfie Solomons หัวหน้าแก๊งชาวยิว
ในปี 2558 เขามีภาพยนตร์ห้าเรื่อง ก่อนอื่นเขาปรากฏตัวใน ‘Child 44’ ซึ่งเขารับบทเป็น Leo Demidov สายลับตำรวจโซเวียต ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั้งในแง่วิจารณ์และเชิงพาณิชย์ แต่การแสดงของเขาได้รับความชื่นชม

การแสดงของเขาในฐานะ Max Rockatansky ในภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเขา ‘Mad Max: Fury Road’ ในปี 2558 ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในบ็อกซ์ออฟฟิศ

ภาพยนตร์เรื่องที่สามของเขาในปี 2558 คือภาพยนตร์ระทึกขวัญอาชญากรรมเรื่อง ‘Legend’ ซึ่งเขารับบทสองพี่น้องเครย์ที่เป็นพวกอันธพาล ภาพยนตร์เรื่องที่สี่ของเขาในปี 2558 คือ ‘The Revenant’ ซึ่งเป็นภาพยนตร์กึ่งชีวประวัติของอเมริกา
ในปี 2560 เขาปรากฏตัวในภาพยนตร์สงคราม ‘Dunkirk’ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการอพยพทหารของอังกฤษไปยังท่าเรือดันเคิร์กของฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ฮาร์ดีจะรับบทเป็นช่างภาพสงครามในภาพยนตร์เรื่อง ‘Unreasonable Behavior’ เขาจะร่วมแสดงในภาพยนตร์ชีวประวัติ Al Capone เรื่อง ‘Fonzo’ ของ Josh Trank ด้วยเช่นกัน

ที่หน้าทีวีในปี 2560 เขาปรากฏตัวในซีรีส์โทรทัศน์ BBC One เรื่อง ‘Taboo’ ซึ่งสร้างโดย Steven Knight, Hardy และ Edward พ่อของเขา ฮาร์ดีได้เขียนเรื่องนี้ เขาจะปรากฏตัวใน ‘Venom’ ซึ่งจะเข้าฉายในปี 2561

ทอม ฮาร์ดี (Tom Hardy) เป็นนักแสดงชาวอังกฤษที่เป็นที่รู้จักในวงการภาพยนตร์และทีวีทั้งในบทบาทหลักและรอง และเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับความนิยมมากในยุคปัจจุบัน ดังนี้คือประวัติของเขา:

1. วันเกิดและข้อมูลส่วนตัว: ทอม ฮาร์ดี เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1977 ในเบรกโก้ลนส์, ลอนดอน, อังกฤษ ชื่อเต็มของเขาคือ Edward Thomas Hardy และเขามีชื่อเล่นที่คนรู้จักกันดีคือ “Tom.”
2. การเริ่มต้นในการแสดง: เริ่มต้นชีวิตอาชีพในวงการแสดงเรื่องราวด้วยการแสดงในลีดร้ามและโรแมนติกในทีวีและโรงละครในตอนต้นของอายุเขา แต่รางวัลแรกที่เขาคว้าได้เป็นรางวัล “The Big Breakfast’s Find Me a Supermodel” ในปี 1998.
3. การแสดงในภาพยนตร์: ทอม ฮาร์ดีเริ่มต้นการแสดงในภาพยนตร์ด้วยบทบาทเล็กในหนังเรื่อง “Black Hawk Down” ในปี 2001 และในหนังเรื่อง “Star Trek: Nemesis” ในปี 2002 หลังจากนั้นเขาได้รับความรู้จักมากขึ้นด้วยบทบาทในหนังเรื่อง “Inception” ในปี 2010 และหนังเรื่อง “Warrior” ในปี 2011 ที่ได้รับความรู้จักจากนักวิจารณ์และผู้ชมในวงการภาพยนตร์ทั่วโลก.
4. บทบาทตำนานเป็น “Bane”: ทอม ฮาร์ดีเล่นบท “Bane” ในภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight Rises” ในปี 2012 ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของซีรีส์ Batman ของ Christopher Nolan บทบาทนี้ทำให้เขากลายเป็นดาวรับเชิญในภาพยนตร์แอ็คชั่นมากของฮอลลีวูด.
5. รางวัลและความนิยม: ทอม ฮาร์ดีได้รับความยอดเยี่ยมจากวงการแสดงและผู้ชม และได้รับรางวัลต่าง ๆ อาทิเช่น BAFTA Award, Academy Award (Oscar) nomination, Screen Actors Guild Award, และอื่น ๆ นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีผู้ชมที่รักในวงการบันเทิงโลก.
6. งานแสดงที่โดดเด่น: นอกจากบท Bane ที่มีความโดดเด่นใน “The Dark Knight Rises,” ทอม ฮาร์ดียังเล่นบท “Mad Max” ในภาพยนตร์เรื่อง “Mad Max: Fury Road” (2015) และบท “Eddie Brock / Venom” ในภาพยนตร์ “Venom” (2018) และ “Venom: Let There Be Carnage” (2021).
7. ชีวิตส่วนตัว: เรื่องราวของชีวิตส่วนตัวของทอม ฮาร์ดีมักจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เขาแต่งงานกับแฟนและนักแสดงชื่อ Charlotte Riley ในปี 2014 และมีลูกสาวร่วมกัน. เขายังมีประวัติเป็นผู้สูงอายุและสะพรึงกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้และฟิตเนส.

ทอม ฮาร์ดีเป็นนักแสดงที่มีความสามารถและเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงโลก ผลงานแสดงของเขาตลอดกาลได้รับความรู้จักและสำเร็จเป็นอย่างดีและยังคาดหวังว่าเขาจะยังมีผลงานที่น่าติดตามในอนาคตด้วย.